การแกะสลัก หมายถึง วิธีการเอาส่วนย่อยออกจากส่วนรวม ซึ่งเป็นกระบวนการในทางลบที่ปรากฏหรือเหลือไว้เฉพาะส่วนที่ต้องการ ผลงานที่ได้เรียกว่า “รูปสลัก” การแกะสลักส่วนใหญ่จะใช้วัสดุที่มีเนื้อไม่แข็งมากนัก เช่น ปูนปลาสเตอร์ ปูนผสมทราย ไม้เนื้ออ่อน สบู่ ผักผลไม้ชนิดต่างๆ ที่สามารถนำมาแกะสลักได้ เป็นต้น
ประเภทของการแกะสลัก
ประเภทของงานแกะสลักแบ่งออกได้เป็น 3 ลักษณะ ดังนี้ แบบลอยตัว สามารถมองเห็นได้ทุกด้าน เช่น ภาพพระพุทธรูปทั้งองค์ แบบนูนสูง เป็นภาพที่มองเห็นเพียงครึ่งเดียวจากภาพเต็มตัว เช่น การแกะสลักลงบนแผ่นไม้ แบบนูนต่ำ เป็นภาพที่มองเห็นเฉพาะหน้าตรงเท่านั้น เช่น ภาพบนเหรียญ นอกจากการแกะสลักมีลักษณะเช่นเดียวกับประเภทของการปั้นแล้ว การแกะสลักกับการปั้นยังมีข้อแตกต่างกันตรงที่การแกะสลักจะมีแบบต่างๆ มาก ขึ้น เช่น แบบแกะสลักลายเส้น แบบร่องลึก และแบบร่องตื้น เป็นต้น ซึ่งวิธีการแกะ สลักก็จะทำให้ลักษณะเซาะร่องเป็นลายเส้นลงไปในเนื้อวัสดุ มีทั้งเซาะร่องเป็นแบบตื้นและลึก ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับประเภทและชนิดของการแกะสลักที่จะนำไปใช้
วัสดุอุปกรณ์ที่ใช้ในการแกะสลักและวิธีการเก็บรักษาเครื่องมือ
วัสดุที่ใช้ในการแกะสลัก
วัสดุที่ใช้สำหรับแกะสลักมีมากมายหลายชนิด ขึ้นอยู่กับลักษณะของงาน เริ่มตั้งแต่วัสดุสำหรับการแกะสลักแบบง่ายๆ เนื้อวัสดุไม่แข็งมากนัก ไปจนถึงวัสดุที่มีความสลับซับซ้อนต้องใช้เครื่อง มือไฟฟ้าเข้าช่วยในการปฏิบัติงานเพราะฉะนั้นในการเลือกใช้วัสดุจึงต้องคัด เลือกให้เหมาะสมกับงานแต่ละชนิด ดังนี้
1. ปูนปลาสเตอร์ หาได้ตามร้านเครื่องเขียนหรือร้านขายอุปกรณ์ทางศิลปะทั่วไป ธรรมชาติของปูนปลาสเตอร์จะมีเนื้อเป็นผงสีขาว ใช้ผสมกับน้ำอัตราส่วนน้ำ 1 ส่วน ปูนปลาสเตอร์ 2 ส่วน แต่ถ้าต้องการให้เนื้อปูนมีความหนาแน่นมากๆ อัตราส่วนของปูนปลาสเตอร์อาจจะผสมลงไปมากกว่านี้ก็ได้ ปูนปลาสเตอร์ที่มีคุณภาพดีเนื้อปูนจะแข็งตัวเร็ว เมื่อจับผิวกายภายนอกจะรู้สึกร้อน การเลือกปูนปลาสเตอร์จึงควรเลือกปูนที่ใหม่และมีคุณภาพดี
2. ปูนผสมทราย เป็นวัสดุสำหรับการแกะสลักที่เกิดจากการใช้วัสดุผสม กัน 2 ชนิด คือ ปูนปลาสเตอร์ และทรายในอัตราส่วน 1 ต่อ 1 ถ้ามีส่วนผสมของทราย มากเกินไปเนื้อปูนจะร่วนไม่เกาะติดกัน การใช้วัสดุปูนผสมทรายนั้นจะต้องมีความพิถีพิถันมาก เช่น ทรายที่จะนำมาใช้ ผสมกับปูนปลาสเตอร์จะต้องได้รับการคัดแยกเศษวัสดุที่ปะปนมากับทรายออกให้หมด ก่อน เพราะหากยังมีเศษวัสดุอยู่จะทำให้ผิวพื้นวัสดุไม่สวยงามหรืออาจมีปัญหาใน ขั้นตอนการแกะสลักได้
3. ไม้เนื้ออ่อน เป็นวัสดุที่หาได้ทั่วๆ ไปจากธรรมชาติ ไม้เนื้ออ่อนที่เหมาะสำหรับแกะสลัก เช่น ไม้โมก ไม้สัก เป็นต้น ไม้แต่ละชนิดจะมีลายที่งดงามแตกต่างกัน ซึ่งลักษณะของเนื้อไม้นี้ เองสามารถสร้างความน่าสนใจให้กับผลงานแกะสลักได้ ดังนั้น ในการเลือกนำไม้มาแกะสลัก ผู้เรียนควรจะเลือกชนิดและขนาดให้พอเหมาะ กับลักษณะของงานแต่ละชิ้น เพื่อไม่ให้วัสดุสิ้นเปลืองจนเกินไป อีกทั้งยังเป็นการช่วยประหยัดการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติอีกด้วย
4. เทียนไข เป็นวัสดุสำหรับการแกะสลักที่สามารถหาได้ตามร้านค้าทั่วๆ ไป แต่เทียนไขที่มีจำหน่ายจะเป็นเทียนไขสำเร็จรูปที่ใช้สำหรับบูชาพระ ไม่สามารถนำมาใช้แกะสลักได้ ถ้าจะใช้ต้องนำมาหล่อใหม่ตามรูปทรงที่ต้องการก่อน โดยใช้การละลายกับความร้อนในภาชนะรองรับ และก่อนการละลายเทียนไข ควรนำไส้ในของเทียนออก ทั้งนั้นเพื่อไม่ให้ไส้เทียนปะปนกับเนื้อเทียนไขที่จะใช้ในการแกะสลัก
การเก็บรักษาเครื่องมือแกะสลัก
เครื่องมือที่ใช้ในการแกะสลักจะมีรูปร่างและขนาดแตกต่างกัน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะและประเภทของงานนั้นๆ เครื่องมือแกะสลักจะมีความแข็งแรงทนทานมากกว่าเครื่องมือปั้น แต่การเก็บรักษาจะคล้ายคลึงกัน จะต่างกันตรงที่เครื่องมือแกะสลักควรจะแยกประเภทของลักษณะงาน เช่น ชุดของเครื่องมือสำหรับแกะสลักวัสดุเนื้ออ่อน ชุดเครื่องมือสำหรับแกะสลักวัสดุเนื้อแข็ง เป็นต้น ก่อนเก็บเข้าชุดหลังจากใช้งานเสร็จแล้วควรล้างทำความสะอาดด้วยน้ำแล้วเช็ดให้แห้ง ทาน้ำยากันสนิม แล้วนำมาเก็บใส่กล่องให้เป็นระเบียบเพื่อสะดวกในการนำไปใช้งานในครั้งต่อไป
หลักและวิธีการแกะสลัก
การแกะสลักมีหลักและวิธีการสำคัญ ดังนี้
1. การเลือกวัสดุ จะต้องพิจารณาคัดสรรให้สอดคล้องกับงานที่ทำ เพราะวัสดุแต่ละชนิดจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัวแตกต่างกัน เช่น บางชนิดมีเนื้ออ่อน บางชนิดมีเนื้อแข็ง เป็นต้น
2. การเลือกเครื่องมือ จะต้องเลือกให้เหมาะสมและสอดคล้องกับลักษณะของงาน ไม่ควรเลือกใช้กับงานที่ผิดประเภท เพราะจะทำให้เครื่องมือเสียหายได้
3. การร่างรูปและการขึ้นรูป เป็นขั้นตอนที่สำคัญของการแกะสลัก เป็นกระบวนการทางลบที่นำส่วนย่อยออกจาก ส่วนรวม จึงต้องใช้ความระมัดระวังในการแกะสลักมากกว่าการปั้นที่ค่อยๆ พอกเพิ่ม และประการสำคัญส่วนไหนพอกเกินก็สามารถนำออกได้ ดังนั้นการแกะสลักจึงต้องมี การวางแผนและเตรียมการให้ชัดเจนตั้งแต่การร่างรูป กำหนดเส้น โครงสร้าง สัดส่วนของแบบที่จะแกะสลักให้แน่นอน เมื่อได้แล้วจึง ค่อยๆ แกะสลักขึ้นรูปโครงสร้างแบบคร่าวๆ ในขั้นตอนนี้จะเป็นการฝึกการสังเกตหรือ ศึกษาภาพแกะสลักเป็นภาพรวมอย่างหยาบไปก่อน
4. การให้รายละเอียด เป็นขั้นตอนสุดท้ายของการแกะสลัก ผู้เรียนจะต้องค่อยๆ เพิ่มความชัดเจนของวัสดุที่กำลังแกะสลักอยู่ ด้วยการใช้เครื่องมือขนาดเล็กในการตกแต่งรายละเอียดให้ปรากฏขึ้นมา